โฆษณา

Sunday, February 17, 2008

วิธีเลือกลงทุนเพื่อความปลอดภัยทางการเงิน

น.ส. สุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต กล่าวผ่านรายการ Smart Money ว่า ในภาวะที่ราคาหุ้นผันผวน ผู้ลงทุนควรลงทุนด้วยความปลอดภัย ซึ่งต้องดูจากความต้องการของแต่ละคนว่ายอมรับความเสี่ยง และพอใจระดับผลตอบแทนในระดับใด ซึ่งการลงทุนที่น่าสนใจมีหลากหลายวิธี ดังนี้- การฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละแห่งซึ่งมีความแตกต่างกัน ผู้ลงทุนควรฝากเงินอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยประมาณ 3%
- กองทุนตราสารหนี้ ซึ่งมีความน่าสนใจในภาวะที่มีการลดอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากประสบปัญหาเงินบาทแข็งค่า และปัญหา Subprime ผู้ลงทุนควรลงทุนระยะยาวเกินกว่า 1 ปี และในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้คาดว่าจะมีการออกพันธบัตรออมทรัพย์กว่า 5 หมื่นล้านบาท และบริษัทเอกชนก็จะทยอยออกตราสารหนี้ในรูปแบบหุ้นกู้ ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละแห่งว่าจะออกหุ้นกู้อายุเท่าใด อาจเป็นได้ตั้งแต่ 2 - 7 ปี ซึ่งผู้ลงทุนควรดูจังหวะของเงินลงทุน และเปรียบเทียบผลตอบแทนก่อนตัดสินใจเลือกลงทุน
- กองทุนอสังหาริมทรัพย์ เหมาะสำหรับถือลงทุนในระยะยาว ให้ผลตอบแทน 5-7% ปัจจุบันมีทั้งหมด 15 กองทุน ซึ่งเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างมาก เนื่องจากราคาที่ดินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหากมีการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ก็อาจทำให้มีเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนมากขึ้น ซึ่งช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้
- Structure Note เป็นการรวมตราสารอนุพันธ์ และตราสารหนี้เข้าด้วยกัน ถือเป็นความท้าทายใหม่ ในการออกแบบการลงทุนในอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับหลักทรัพย์ต่าง ๆ เช่น SET 50 หรือ ทองคำ โดยหากเงื่อนไขการลงทุนเป็นไปตามที่กำหนด เช่น ดัชนี SET 50 แกว่งตัวในระดับที่กำหนดไว้ ก็จะได้ผลตอบแทนเพิ่มเติม
- ทองคำ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งการลงทุนในทองคำโดยตรง หรือผ่านกองทุน โดยในขณะนี้มีการเก็งกำไรจากมูลค่าทองคำที่ผันผวนตามราคาน้ำมัน และราคาของโลหะในตลาดโลกก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน สุวภาบอกด้วยว่า ไม่ว่าผู้ลงทุนจะเลือกลงทุนแบบใด ก็ควรที่จะพิจารณา ให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของตัวเอง สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุน มองว่าเป็นเรื่องของความผันผวนมากกว่า เช่น อัตราดอกเบี้ย 7% มีความผันผวนน้อย อัตราดอกเบี้ย 20% มีความผันผวนมาก แต่ในบางครั้งกรณีที่มีความเสี่ยงมาก ก็มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนต่ำก็เป็นได้ ดังนั้น การตัดสินใจลงทุนจึงขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ และระดับการยอมรับความเสี่ยงของผู้ลงทุนเป็นหลัก


บทความจาก Money Channel

No comments: